การล่มสลายของอาณาจักรข่านฮูลากู และการฟื้นฟูอำนาจของราชวงศ์เดลลีในดินแดนอินเดีย

ศตวรรษที่ 13 เป็นยุคทองของจักรวรรดิข่านมองโกล ซึ่งนำโดยเจงกีสข่านผู้ยิ่งใหญ่ แม้ว่าเจงกีสข่านจะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่ลูกหลานของพระองค์ยังคงครองอำนาจและขยายอาณาเขตต่อไป สิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในดินแดนอินเดีย

อาณาจักรข่านฮูลากู ซึ่งเป็นหลานชายของเจงกีสข่าน เป็นผู้ครองดินแดนเปอร์เซียและได้รุกคืบเข้ามาในชมพูทวีป ในปี 1246 กองทัพมองโกลภายใต้การนำของฮูลากูยึดครองเมืองเดลลี เมืองหลวงของราชวงศ์มัมลูก ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ปกครองดินแดนอินเดียในขณะนั้น

เหตุการณ์นี้มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อดินแดนอินเดีย การโจมตีของฮูลากู ทำให้เกิดความเสียหายและการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก ในปี 1246 ฮูลากูยึดครองเมืองเดลลี เมืองหลวงของราชวงศ์มัมลูก ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ปกครองดินแดนอินเดียในขณะนั้น

หลังจากชัยชนะที่เดลลี การรุกรานของมองโกลยังคงดำเนินต่อไป แต่ฮูลากูไม่ได้ยึดครองดินแดนอินเดียทั้งหมด การป้องกันของกองทัพมัมลูกแข็งแกร่งพอที่จะหยุดยั้งการรุกของมองโกล และหลังจากนั้นไม่นาน ฮูลากูก็ถอนกำลังออกจากชมพูทวีป

เหตุผลที่ฮูลากูถอนกำลังจากอินเดียยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าการรุกของมองโกลถูกขัดขวางด้วยความแข็งแกร่งของกองทัพมัมลูก อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าฮูลากูต้องการหันไปมุ่งเน้นการยึดครองดินแดนอื่น ๆ

ผลกระทบต่อดินแดนอินเดียหลังการล่มสลายของอาณาจักรข่านฮูลากู:

• ความปั่นป่วนทางการเมือง: การรุกรานของมองโกลทำให้เกิดความไม่มั่นคงในดินแดนอินเดีย
• การฟื้นตัวของราชวงศ์เดลลี: หลังจากมองโกลถอนกำลัง กษัตริย์ที่ขึ้นมาปกครองแทนก็สามารถฟื้นฟูอำนาจของราชวงศ์เดลลี

แม้ว่าการรุกรานของมองโกลจะมีผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่ได้ทำลายอารยธรรมของอินเดียอย่างสิ้นเชิง อินเดียยังคงเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนาที่สำคัญในโลก

นอกจากนี้ การล่มสลายของอาณาจักรข่านฮูลากู ยังเปิดทางให้ราชวงศ์เดลลีฟื้นฟูอำนาจ และนำดินแดนอินเดียเข้าสู่ยุคทองใหม่